ตัวอย่างการเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาเชิงโต้ตอบ
เบื่อกับวิธีเล่าเรื่องผ่านบทความแบบเดิมหรือไม่?
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสื่อดั้งเดิม (ทีวี, วิทยุ, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร) หรือแสวงหารายได้จาการโฆษณาผ่านสื่อ ต่างก็ได้ผลกระทบจากภูมิทัศน์สื่อที่เกิดความเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมการอ่าน วิธีรับชม วิธีรับรู้ข้อมูล ข่าวสารความรู้และความบันเทิงของผู้คนทำผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้ทุกคน ทุกธุรกิจ เอเจนซี่ รวมทั้งหน่วยงานด้านการตลาดจำเป็นต้องปรับตัว หาวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากระบบออนไลน์ที่กำลังเติบโตให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ผลกระทบดังกล่าวก็เกิดขึ้นกับประเทศไทยเช่นกัน (ช้ากว่าตลาดโลกราว 5-10 ปี) แต่เนื่องจากในบ้านเรามีการเติบโตทางเทคโนโลยีที่ล่าช้า ธุรกิจต่างๆ ที่เป็นเจ้าตลาดจึงยังคงมุ่งเน้นที่การผลิตสิ่งพิมพ์เป็นหลัก ถึงแม้ระหว่างนั้นจะมีการทำสิ่งพิมพ์ดิจิทัล (PDF, Ebook) กันบ้างแล้วแต่ก็ยังคงเป็นวิวัฒนาการที่เชื่องช้าและเติบโตอย่างยากลำบาก
ธุรกิจสื่อดั้งเดิมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเปลี่ยนรูปแบบเนื้อหาเพราะพวกเขายังหารายได้จากค่าโฆษณา พวกเขาสามารถใส่บทความในหน้าเว็บได้ง่ายๆ พอๆ กับโพสต์เนื้อหาบนสื่อโซเชียล ขณะเดียวกัน กองบรรณาธิการและเอเจนซี่ต่างๆ ก็ไม่เห็นความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเปลี่ยนวิธีเล่าเรื่องของพวกเขาให้แตกต่างกันระหว่างสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิทัล
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมจึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจต่างๆ ที่เริ่มปลดปล่อยตัวเองจากขอบเขตของการนำเสนอแบบเดิมแล้วหันมาเผยแพร่เล่าเรื่องผ่านระบบออนไลน์ เล่าข่าว เล่าไลฟ์สไตล์ โดยไม่ยึดติดกับวิธีนำเสนอผ่านสื่อแบบเดิมๆ
แค่ออนไลน์นั้นยังไม่พอ
ธุรกิจสื่อดั้งเดิมส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์) ที่ตัดสินใจปรับตัวสู่โลกออนไลน์ พวกเขามักลืมไปว่า โลกออนไลน์เต็มไปด้วยผู้บริโภคที่กลายเป็น "ปัจเจกชน" อย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาเลือกรับเนื้อหาอย่างอิสระ ค้นหาเนื้อหาและสิ่งต่างๆ ด้วยเครื่องมือค้นหาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองได้ง่ายๆ แค่เพียงสัมผัสหน้าจอเท่านั้น และเมื่อโดนขัดจังหวะจากเนื้อหาโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้อง พวกเขาก็แค่เขี่ยเนื้อหาที่ไม่ตรงกับความสนใจทิ้งได้ทันทีด้วยปลายนิ้ว
"เนื้อหา" จึงมีส่วนสำคัญมากที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ ทำให้ในแต่ละวันมีเนื้อหาจำนวนมากที่ถูกผลิตขึ้นและเผยแพร่ไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้วิธีการบอกเล่าเรื่องราวผ่านเนื้อหาหรือบทความลดประสิทธิภาพลง ทำอย่างไรให้ผู้อ่าน ผู้ชมมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเพิ่มขึ้น
การเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ด้วยรูปแบบเนื้อหาอินเทอร์แอคทีฟหรือเนื้อหาเชิงโต้ตอบ ได้เข้ามาช่วยพัฒนาวิธีเล่าเรื่อง แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การนำเสนอผ่านบทความเพื่ออ่านเท่านั้น แต่เป็นการเล่าเรื่องที่สมจริง ออกแบบให้กระตุ้นการมีส่วนร่วมและมอบประสบการณ์แบบดิจิทัลที่สนุกสนานมากยิ่งขึ้น
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการเล่าเรื่องผ่านเนื้อหาเชิงโต้ตอบซึ่งผมคิดว่าพวกเขายอดเยื่ยมมาก และหวังว่าคุณจะได้รับแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากผลงานของพวกเขา ผลักดันให้คุณกล้าที่จะทำลายกรอบวิธีเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาแบบเดิมๆ แล้วมุ่งสู่การเล่าเรื่องที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณให้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาอย่างตั้งใจมากขึ้น
ตัวอย่างที่ 1: Petal – Crush Magazine
ในฐานะที่เป็นคนที่ชอบทำอาหารและเป็นนักกิน ผมบังเอิญเจอ Crush Magazine ครั้งแรกใน Pinterest พวกเขาไม่เพียงแค่นำเสนอรูปภาพอาหารที่สวยงาม แต่ยังเตรียมสูตรอาหารที่น่าสนใจเหล่านั้นไว้ให้ภายในเว็บด้วย พวกเขามีวิธีการหารายได้ในรูปแบบการสมัครสมาชิกฉบับพิมพ์แบบรายปี (4 ฉบับ/ปี) สมาชิกชำระเพิ่มเพียงแค่ค่าจัดส่งต่อครั้ง พร้อมกับจัดทำสื่อดิจิทัลในรูปแบบเนื้อหาอินเทอร์แอคทีฟไว้ให้อ่านฟรี (ตัวอย่าง) Crush Magazine จึงเป็นต้นแบบให้กับสำนักพิมพ์ที่กำลังมองหาวิธีสร้างรายได้จากนิตยสารแบบเดิมให้สามารถรักษาคุณค่าของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้รับการออกแบบรูปเล่มที่สวยงามพร้อมๆ กับพัฒนาวิธีเล่าเรื่องให้สร้างสรรค์ได้อีกด้วย
ตัวอย่างที่ 2: NY Times
The New York Times (NY Times) เป็นหนังสือพิมพ์รายวันของอเมริกาที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์กซึ่งมีฐานผู้อ่านจำนวนมากจากทั่วโลก พวกเขาผู้นำในด้านการเผยแพร่ การสร้างรายได้จากเนื้อหาออนไลน์ พวกเขาลงทุนในเนื้อแบบอินเทอร์แอคทีฟมาได้หลายปีแล้ว เนื้อหาแบบอินเทอร์แอกทีฟในหัวข้อ Snow Fall (ตัวอย่าง) ได้เปลี่ยนการรับรู้แบบเดิมของผมที่เคยเข้าใจว่าเนื้อหาอินเทอร์แอคทีฟจะมุ่งนำเสนอเนื้อหาแบบสั้น เน้นระบบสัมผัสและภาพเคลื่อนไหว แต่เป็นการนำเสนอเนื้อหาแบบยาว (Long Form Content) จากนักเขียนหลายคนในหัวข้อเดียวกัน
พวกเขาได้ทำลายกรอบความคิดแบบเดิมที่เคยจำกัดขอบเขตการนำเสนอแบบเดิม แล้วมุ่งสื่อสารให้มอบความสนุก ความเพลิดเพลินไปพร้อมๆ การให้ความรู็ การศึกษาแนวทางของ NY Times จึงเป็นต้นแบบให้กับสำนักพิมพ์, ธุรกิจสื่อ, เอเจนซี่ที่กล้าที่จะทดลองวิธีการเล่าเรื่องแบบใหม่ๆ เพิ่มคุณค่าด้วยวิธีนำเสนอเนื้อหาเพื่อดึงดูดยอดการสมัครสมาชิกให้เพิ่มสูงขึ้น
ตัวอย่างที่ 3: Mashable
Mashable อาจไม่ดึงดูดใจคนทั่วไปมากเท่ากับ BuzzFeed หรือ Refinery29 แต่พวกเขากำลังเล่าเรื่องผ่านเนื้อแบบอินเทอร์แอคทีฟในรูปแบบที่สื่ออื่นๆ ไม่ทำ พวกเขาลงทุนสร้างอินโฟกราฟิกแบบอินเทอร์แอคทีฟ แบบทดสอบ และกราฟิกอื่นๆ ที่สอดคล้องกับเนื้อหาหลักและช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมกับเนื้อหามากยิ่งขึ้น ด้วยแผนที่แหล่งปลูกกาแฟแบบอินเทอร์แอคทีฟ (ตัวอย่าง) ช่วยให้การเล่าเรื่องของพวกเขาทำได้สนุกมากขึ้น
ตัวอย่างที่ 4: The Guardian
ในปี 2013 The Guardian ได้เปิดตัวเนื้อหาแบบอินเทอร์แอคทีฟเรื่อง 'Firestorm' (ตัวอย่าง) เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของการเล่าเรื่องผ่านเนื้อหาแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ผสมผสานทั้งงานเขียนแบบยาว รูปภาพ สไลด์โชว์ คลิปเสียง และวิดีโอแนวสารคดี บอกเล่าเรื่องราวของทิมและแทมมี่ โฮล์มส์ที่ซ่อนตัวจากไฟป่าที่รุนแรงในรัฐแทสเมเนีย ซึ่งเป็นการทำลายล้างครั้งประวัติศาสตร์จากภัยธรรมชาติที่ออสเตรเลียเคยประสบ พิสูจน์ได้จากการที่เนื้อหานี้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในเทศกาลสารคดีต่างๆ มากมาย
บทสรุป
คุณอาจคุ้นเคยกับการบอกเล่าเนื้อหาในรูปแบบบล็อก บทความบนเว็บ การโพสต์เนื้อหาบนสื่อโซเชียลหรือการเขียนบทความผ่านสื่อแบบดั้งเดิม และอาจยังไม่คุ้นเคยกับวิธีเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาแบบอินเทอร์แอคทีฟ แต่เราอยากบอกคุณว่าการสร้างแรงบันดาลใจผ่านการเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาเแบบอินเทอร์แอคทีฟนั้นมอบประการณ์ที่ดีกว่ามาก แต่ก็แลกมาด้วยขั้นตอนการทำงานมากกว่างานที่ผ่านมาของคุณและมีแนวโน้มที่จะทำให้คุณอาจต้องการใช้ทรัพยากรมากขึ้น
คำถามคือ "มันคุ้มหรือไม่"
แน่นอนใครตามที่ต้องการพัฒนาวิธีบอกเล่าเรื่องราวให้สร้างสรรค์และผลักดันให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม คงรีบต้องตอบว่า "คุ้ม" อย่างรวดเร็วทั้งที่ลึกๆ แล้วอาจจะยังไม่มั่นใจอยู่ลึกๆ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงคุ้มค่า:
- เสียงรบกวน — โลกออนไลน์เต็มไปด้วยเนื้อหาจำนวนมาก คนเดียวที่ใส่ใจเกี่ยวกับเนื้อหาจริงๆ คือนักการตลาดที่กำลังผลิตเนื้อหาให้ลูกค้า ผู้บริโภคไม่ต้องการเนื้อหาพวกเขาอาจต้องการแค่คำตอบ หรือความสนุกสนาน หรือทั้งคู่
- โลกกำลังหมุน — ผู้ใช้อุปกรณ์พกพาต่างก็คาดหวังให้มีการปฏิสัมพันธ์ โต้ตอบและสัมผัส มากกว่าแค่การอ่านเนื้อหาจำนวนมาก
- ธรรมชาติของมนุษย์ — คนเราต้องการแค่เพียงการโต้ตอบ การรับรู้เรื่องราวและมีปฏิสัมพันธ์ผ่านเนื้อหาอินเทอร์แอคทีฟจะช่วยให้การผู้บริโภคมีส่วนร่วม ได้รับสิ่งที่ต้องการได้ทันทีและบรรลุเป้าหมายเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
วันนี้การเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาให้ประสบความสำเร็จไม่เพียงแต่ต้องดึงดูดผู้ชมให้ใช้เวลาเนื้อหาจนจบเท่านั้น แต่ต้องทำให้พวกเขาเพลิดเพลินและกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำด้วย เมื่อเข้าใจหลักการนี้ นักการตลาด, นักประชาสัมพันธ์, นักเขียนสารคดีจึงเริ่มหันมาสนใจเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาเชิงโต้ตอบมากขึ้น
หากคุณสนใจพัฒนาวิธีเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาเชิงโต้ตอบ บริษัท แกรมดิจิทัล โซลูชัน แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ยินดีช่วยคุณ ติดต่อเรา
